การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดีและง่าย ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องใช้ทักษะการออกกำลังกายใด ๆ มาเกี่ยวข้อง ทุกคนสามารถวิ่งได้เมื่อต้องการ เพียงแค่สวมเครื่องแต่งกาย และรองเท้าที่เหมาะสมเท่านั้น การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยสลายไขมันได้เร็ว ทำให้หุ่นดีผอมเพรียว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยฝึกฝนให้มีสมาธิดีขึ้น ลดความวิตกกังวล ไม่เครียดง่าย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและมีความสุขทุกวัน

สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามักมองหาลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาไม่แพงมาไว้ใช้ในบ้าน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และทำให้ได้ออกกำลังกายทุกวัน อย่างไรก็ตาม ลู่วิ่งไฟฟ้ามีราคาให้เลือกหลากหลาย เนื่องจากแต่ละเครื่องมีฟังก์ชันการใช้งานไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าควรศึกษาฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการนำไปใช้งานของแต่ละคน เมื่อได้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะกับเราแล้ว คราวนี้เรามาดู 6 เทคนิคการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าให้ได้ผลกัน

1. เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้า ราคามีหลากหลายให้เลือกใช้ แต่ละเครื่องจึงมีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไป ดังนั้น ก่อนออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าควรศึกษาฟังก์ชันการใช้งาน ปุ่มการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้สามารถปรับระดับความเร็ว ความชัน การอุ่นเครื่อง การ Cool down หรือการใช้ปุ่มหยุดฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในขณะใช้งาน
2. ควรบันทึกข้อมูล เช่น น้ำหนัก อายุ เพศ ลงในเครื่อง เพื่อให้เครื่องสามารถประเมินผลการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง
3. ในขณะใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าควรมีการเช็คอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อให้อยู่ในอัตราเป้าหมาย และไม่ให้มีการขึ้นลงของอัตราการเต้นของหัวใจมากเกินไป นอกจากนี้ หากอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไปควรหยุดวิ่งทันทีเพื่อความปลอดภัย สำหรับอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งเป็นอัตราเป้าหมายโดยทั่วไปไม่ควรให้เกินจาก 150 ครั้งต่อนาที
4. ควรออกกำลังกายด้วยการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าให้ได้ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยใช้งานประมาณ 30 – 45 นาทีต่อครั้ง จะช่วยให้สุขภาพดี และหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มอีกด้วย
5. การออกกำลังกายด้วยการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดี ควรเริ่มการวิ่งด้วยการปรับระดับความเร็วไปที่ช้า ๆ ก่อน วิ่งประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ยืดกล้ามเนื้อเป็นการเตรียมความพร้อม และช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย หลังจากวอร์มร่างกายแล้วสามารถปรับระดับความเร็ว และความชันได้ตามต้องการ ก่อนหยุดวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าให้คูลดาวน์ร่างกายโดยปรับความเร็วให้ค่อย ๆ ลดลงจนถึงระดับที่สามารถเดินได้ เป็นการช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจ และการสูบฉีดเลือดเกิดความสมดุล เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังจากใช้งานหนัก ช่วยลดอาการปวดเมื่อย หรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย
6. ควรมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาและความเร็วในการวิ่งประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายทำงานหนัก ส่งผลให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจขยายใหญ่ขึ้น และทำให้หัวใจแข็งแรง

เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาค่อนข้างสูง จึงควรใช้งานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และใช้งานให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคา

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่เสพติดการวิ่งด้วยแล้วละก็ เมื่อไหร่ช่วงที่ขาดการวิ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุมาจากฝนตกตอนเช้า เลิกงานช้า สวนสาธารณะปิดเร็วทำให้เราอดไปวิ่ง กว่าจะได้วิ่งแต่ละทีก็ต้องเป็นวันอาทิตย์ ฯลฯ ด้วยเหตุนานาประการเหล่านี้ หลาย ๆ ท่านอาจจะหันมาให้ความสนใจที่จะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาไว้ออกกำลังกายที่บ้านสักเครื่องเป็นแน่ ยิ่งด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาก็ไม่ได้ถูก ก่อนจะซื้อทั้งทีเราก็ต้องศึกษา  วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคามาฝากกัน

ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และการรับประกันสินค้า

การที่เราจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างแรกเลยเราควรจะให้ความสำคัญกับแบรนด์สินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับกันในท้องตลาดรวมถึงมีศูนย์บริการสินค้าอยู่ในประเทศไทยเพื่อที่หากเกิดเหตุอุปกรณ์ขัดข้องขึ้นมาจะได้สะดวกในการนำส่งซ่อม สินค้าควรต้องมีการรับประกันสินค้าโดยเฉลี่ยอย่างต่ำต้อง 1 ปีหรือมากกว่ายิ่งดีค่ะ

เลือกตามขนาดพื้นที่

ลู่วิ่งไฟฟ้ามีหลายขนาด ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อควรดูตามขนาดพื้นที่ในบ้านว่าพื้นที่ส่วนที่เราจะวางลู่วิ่งมีพื้นที่เหลือขนาดไหน โดยการวัดขนาดห้องก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรุ่นลู่วิ่งไฟฟ้า

กำหนดงบประมาณในการซื้อ

การตัดสินใจเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อเช่นกัน ยิ่งในปัจจุบันลู่วิ่งไฟฟ้าก็มีให้เลือกกันมากมายหลายรุ่น จะเห็นได้ว่าลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาจะมีตั้งแต่ราว ๆ 30,000 บาทไปจนถึงระดับราคาเป็นแสนบาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทมอเตอร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน

กำลังมอเตอร์และขนาดสายพาน

เราต้องพิจารณาก่อนว่าลู่วิ่งที่เราซื้อมาส่วนใหญ่จะใช้แค่ “เดิน” หรือ “วิ่ง”   ถ้าเน้นซื้อมาเพื่อเดินเป็นหลักแนะนำว่าใช้ 1.5 แรงม้าก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใช้วิ่งเป็นหลักก็ให้เลือกรุ่นที่มีมอเตอร์มากว่า 2.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ขึ้นไป  ส่วนขนาดสายพานสำหรับท่านที่ซื้อมาเพื่อเดินเป็นส่วนใหญ่ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีขนาดกว้าง 45 ซม. ยาว 138 ซม. หนา 1.6 มิลลิเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้ามาเพื่อวิ่งเป็นหลักก็ควรเลือกรุ่นที่มีสายพานขนาดกว้าง 50 ซม. ยาม 150 ซม.ขึ้นไป และต้องมีความหนาไม่น้อยกว่า  2  มิลลิเมตร

ระบบความปลอดภัย

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้านั่นก็คือ ต้องเลือกแบบที่มีระบบความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น มีระบบตัดการทำงานเมื่อผู้ใช้เสียหลักหกล้ม  พร้อมกับปุ่มควบคุมการทำงานต่าง ๆ ที่ใช้งานง่ายได้มาตรฐาน

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้  เราเชื่อแน่ว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่อง ข้อสำคัญ อย่าลืมทดลองใช้เครื่องก่อนการตัดสินใจซื้อด้วยนะคะ เพราะนอกจากฟังก์ชั่นและระบบต่างๆ ของตัวเครื่องที่ครอบคลุมการใช้แล้ว ผู้ซื้อยังควรเลือกโดยการทดลองใช้งานจริง จะทำมั่นใจว่าเป็นเครื่องที่ใช้งานง่าย ถูกใจและเหมาะสมตามการใช้งานที่ต้องการจริงๆ